กิมจิ
สูตรอาหารเอเชีย

กิมจิ อาหารประจำชาติที่เมื่อพูดถึงใคร ๆ ก็ต้องรู้จักทั่วโลก

กิมจิ เคล็ดรับน่ารู้ ? เกี่ยวกับกิมจิ พร้อมวิธีทำกิมจิสุดอร่อยแบบละเอียด ! 

กิมจิ ถ้าพูดถึงกิมจิ แน่นอนว่า สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในประเทศเกาหลี ไม่มีใครไม่รู้จัก “ กิมจิ ” ที่เป็นอาหารประจำชาติของเกาหลี ที่มีความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ! ซึ่งประเทศไทยของเรา ก็ได้มีการรับวัฒนธรรมนี้เข้ามา ทำให้ในปัจจุบันบ้านเรามีการรับประทานกิมจิอย่างแพร่หลาย

ประวัติกิมจิ

มารู้จักกับ ประวัติกิมจิ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ?

ที่มา “ กิมจิ ” มาจากในสมัยก่อน ประเทศเกาหลีในช่วงฤดูหนาวอากาศ จะมีอากาศที่หนาวมาก ๆ ทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ จึงได้มีการทำกิมจิขึ้นมา เพื่อเป็นการถนอมอาหาร ยืดอายุอาหาร ให้สามารถเก็บไว้ได้นาน ๆ  โดยกิมจิในสมัยโบราณ ได้เรียกว่า “ ชิมเช ” ซึ่งแปลว่า ผักที่ใส่เกลือลงไป  หรือผักดองเค็มนั่นเอง เนื่องจากในสมัยก่อน จะใช้แค่เกลือเท่านั้น

สำหรับการดองกิมจินั้น กิมจิสามารถทำจากผักได้หลากหลายชนิด เช่น ผักกาดขาว , กะหล่ำปลี , หัวใช้เท้า , แตงกวา , มะเขือยาว , ผักโขม เป็นต้น แต่ผักที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ แบชูกิมจิ หรือ กิมจิผักกาดขาว ซึ่งผักกาดขาวควรใช้เป็น ผักกาดขาวจีน เพราะให้รสชาติดีกว่าผักกาดขาวชนิดอื่น

กิมจิสด

เรื่อง (ไม่ลับ) น่ารู้ของกิมจิ มีอะไรบ้าง ?

ซึ่งการกินกิมจิสด กับกิมจิที่มีการหมัก ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกัน กิมจิสดจะได้กิมจิที่ผักยังสดกรอบ ยังเปรี้ยวไม่มาก แต่รสชาติของกิมจิอาจจะไม่เท่ากิมจิหมัก เพราะระยะเวลาการหมักไม่นาน ส่วนกิมจิหมักนั้น ใช้ระยะเวลาหมักนาน จะมีรสชาติที่เปรี้ยว ยิ่งหมักนานยิ่งเปรี้ยว

เราสามารถทำกิมจิให้เปรี้ยวช้าได้ โดยการเปลี่ยนแป้ง ที่ใส่ลงเป็นส่วนผสม โดย ทำกิมจิ ไม่ใส่แป้ง ข้าวเหนียว หรือแป้งข้าวเจ้า เพราะแป้งทั้งสองชนิด จะทำให้กิมจิเปรี้ยวเร็วที่สุด รองลงมา คือ แป้งสาลี และเปรี้ยวช้าที่สุด คือ แป้งมันสำปะหลัง

นอกจากนั้น ยังมีกิมจิเนื้อสัตว์อีกด้วย โดยเนื้อสัตว์บางชนิด สามารถนำมาทำกิมจิได้ เช่น ปลาหมึก หอยนางรม หอยแมลงภู่ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถทำกิมจิ ไม่มีพริกเกาหลีได้เช่นกัน แต่ก็จะให้รสชาติที่ไม่มีความเผ็ด และไม่ได้รับความนิยม

โดยกิมจิสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย เช่น กิมจิผัดไข่ , หมูผัดกิมจิ , แกงกิมจิ , ซุปกิมจิ , ข้าวหน้าเนื้อผัดกิมจิ , แกงกิมจิเต้าหู้อ่อน , รามยอนกิมจิ เป็นต้น

ทำกิมจิ ไม่ใส่แป้ง ข้าวเหนียว

ต่อไปมารู้เกี่ยวกับ วิธีทำกิมจิ ว่ามีขั้นตอนทำอย่างไร ?

กิมจิผักกาดขาว 

ส่วนผสม

  • ผักกาดขาว 1 หัว
  • กระเทียม 3 กลีบ
  • ขิงสับ ½ ช้อนชา
  • แครอท
  • ผงชูรส
  • พริกป่นเกาหลี
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งดอง (ไม่มีใส่น้ำปลา หรือน้ำปูดอง) 1 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอม
  • แป้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • หัวใช้เท้า
  • ผลไม้ เช่น แอปเปิล
  • น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำบ๊วยดอง

วิธีการทำ

  • เติมเกลือลงไปในน้ำ เพื่อทำการแช่พักกาดขาวให้นิ่ม ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง
  • เติมน้ำลงกระทะใส่แป้ง (แป้งใส่มาก ทำให้กิมจิเปรี้ยวเร็ว) แล้วทำการคนจนเหนียว แล้วทำการปิดไฟ แล้วนำหัวใช้เท้า แอปเปิล กระเทียม ขิงสับ ไปปั่น
  • นำแป้งที่พักจนเย็น มาผสมกับส่วนผสมที่นำไปปั่น
  • ใส่พริกป่นเกาหลี ตามความชอบ
  • ใส่กุ้งดอง  ผงชูรส น้ำเชื่อม น้ำตาล แครอท หัวหอมใหญ่ ต้นหอม เกลือ น้ำบ๊วยดอง
  • จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมด มาคลุกให้ทั่วผักกาดขาว

กิมจิ

กิมจิแตงกวา

ส่วนผสม

  • แตงกวา
  • ผักแป้น
  • กุยช่าย
  • หัวหอมใหญ่
  • พริกป่นเกาหลี
  • น้ำตาลทราย
  • กุ้งดอง
  • กระเทียม
  • น้ำปลา
  • เกลือ
  • งาขาว

วิธีการทำ 

  • ทำความสะอาดแตงกวา และ แช่เกลือไว้ 1 ชั่วโมง จากนั้นล้างทำความสะอาด
  • เสร็จแล้วพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำ
  • นำพริกป่นเกาหลี น้ำตาลทราย กุ้งดอง กระเทียมสับ และ น้ำปลา ผสมกันเอาไว้
  • ซอยผักแป้น กุยช่าย และ หัวหอมใหญ่
  • จากนั้นนำ พริกป่นเกาหลี น้ำตาลทราย กุ้งดอง กระเทียมสับ และ น้ำปลา ที่ผสมกันเอาไว้ มาผสมกับ หัวหอมใหญ่ จากนั้นใส่ แตงกวาลงไป
  • ขั้นตอนสุดท้าย ใส่ผักแป้น และ กุยช่าย ลงไป คลุกให้เข้ากัน แล้วโรยงาขาวลงไป

กิมจิต้นหอม

ส่วนผสม

  • น้ำเชื่อม หรือ น้ำตาล
  • น้ำปลา
  • พริกป่นเกาหลี
  • กุ้งดอง
  • แอปเปิ้ลปั่น
  • งาขาว
  • ต้นหอม
  • เกลือ

วิธีการทำ 

  • นำต้นหอมมาล้าง ทำความสะอาด โดยแช่เกลือทิ้งไว้ เสร็จแล้วล้างน้ำเกลือออก
  • เสร็จแล้วพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำ
  • นำน้ำเชื่อม น้ำปลา กุ้งดอง แอปเปิลปั่น พริกป่นเกาหลี มาคลุกเค้าให้เข้ากัน
  • โรยงาขาวลงไป
  • นำส่วนผสม ที่คลุกเค้าเสร็จแล้ว มาทาให้ทั่วต้นหอม
  • สามารถนำไปรับประทานได้เลย

กิมจิ ประโยชน์ มีมากมายหลายอย่าง

1. ลดน้ำหนัก เนื่องจากการรับประทานผัก หรือของดองจะมีแคลลอรี่ที่ต่ำ และผักมีไฟเบอร์สูง ช่วยในการขับถ่าย

2. ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น แบคทีเรียชนิดดี และโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ในกิมจิ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพดี

3. ชะลอความแก่ เพราะกิมจิช่วยยืดอายุเซลล์ หลังจากหมักผ่านไป 2 สัปดาห์ กิมจิจะอุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งดีต่อร่างกายมาก ๆ

4. ดีต่อลำไส้ เช่นเดียวกับผักอื่น ๆ กิมจิมีโปรไบโอติกที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของลำไส้

5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เพราะกิมจิมีแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน